ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเผย ปอท. แจ้งความ ม. 112-พ. ร. บ. คอมฯ ผู้โพสต์เฟสบุ๊คแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถาบัน ต่อมาได้รับการปล่อยตัวในชั้นสอบสวน โดยไม่ต้องวางหลักประกัน เนื่องจากได้มาปรากฏตัวต่อหน้าพนักงานสอบสวนตามนัดหมาย ไม่มีเหตุให้ควบคุมตัว วันนี้ (18 มี. ค. 64) เวลา 11. 00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก. ปอท. )... โพสต์โดย ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม 2021 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเผย รายงานเมื่อวันที่ 18 มี. 2564 ที่ผ่านมาว่าเวลา 11. ) "เรเน่" พุทธพงศ์ (สงวนนามสกุล) เดินทางไปรับทราบ 2 ข้อกล่าวหามาตรา 112 และพ. คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) กรณีแสดงความคิดบนเฟสบุ๊คส่วนตัวเกี่ยวกับสถาบัน ต่อมาได้รับการปล่อยตัวในชั้นสอบสวน โดยไม่ต้องวางหลักประกัน เนื่องจากได้มาปรากฏตัวต่อหน้าพนักงานสอบสวนตามนัดหมาย ไม่มีเหตุให้ควบคุมตัว ปอท. บุกตรวจค้นหอพัก ยึด คอมฯ และโทรศัพท์ ก่อนคุมตัวไปซักที่ ปอท. ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 9 มี. ค 2564 เวลา 07. พุทธพงศ์ถูกเจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้น ภายใต้อำนวยการของ พล. ต. อนันต์ นานาสมบัติ ผู้บัญชาการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก. )
เพื่อเซ็นเอกสารต่าง ๆ หลังจากเจ้าหน้าที่ให้เซ็นเอกสารแล้วเสร็จ ทนายความจึงเข้าพบภายหลัง ตนจึงได้ปรึกษากับทนาย และประสงค์นัดหมายมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบคำให้การในวันที่ 18 มี. 2564 ก่อนรับทราบข้อหา พุทธพงศ์ เผยว่าตนมีความกังวลหากตนถูกจับเข้าเรือนจำ อาจอยู่ไม่ได้เนื่องจากเป็นผู้หญิงข้ามเพศ (transwoman) ด้านญาติพุทธพงศ์เกรงจะเหมือนกรณี "ฟ้า-พรหมศร" ที่ไม่ได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวน แม้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก หลังเสร็จกระบวนการ พนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวพุทธพงศ์ไป โดยไม่ควบคุมตัวไว้ เนื่องจากมาปรากฎต่อหน้าพนักงานสอบสวนแล้ว ไม่มีเหตุให้ควบคุมตัว จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน นับตั้งแต่ปลายเดือน พ. 2563 จนถึงวันที่ 18 มี. 2564 มีผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 อย่างน้อย 73 ราย ในจำนวน 63 คดีแล้ว และคดีของ "พุทธพงศ์" เป็นคดีที่ 5 แล้วที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเป็นผู้ร้องทุกข์ สถานการณ์ดังกล่าว สะท้อนปัญหาสำคัญประการหนึ่งของการบังคับใช้มาตรา 112 คือ เปิดโอกาสให้ใครก็ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยไม่ต้องเป็นผู้เสียหายเองเหมือนกับข้อหาหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดา ทำให้กฎหมายมาตรานี้สามารถถูกกลุ่มฝ่ายการเมืองต่างๆ นำไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง หรือใช้กล่าวหากลั่นแกล้งกันไปมาอีกด้วย