ลูกเล่นโทรศัพท์จนตาอักเสบหวิดตาบอด เคยได้ยินมาไม่อยากเชื่อ จนลูกเป็น! วิธีพัฒนาสมองลูกให้ฉลาด พ่อแม่สร้างได้เพียงแค่ 15 นาที มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!
ปิดเทอมฤดูร้อนมาถึงแล้ว และเราเชื่อว่าตอนนี้บรรดาผู้ปกครองหลายคนต่างก็กำลังเสิร์ชกูเกิ้ล มองหาว่าจะพาลูกหลานไปเที่ยว ไปทำกิจกรรม หรือไปศึกษาหาความรู้ที่ไหนดีช่วงปิดเทอมโดยไม่จำเป็นต้องไปห้างสรรพสินค้า หรือไปสวนน้ำอย่างเดียว เพื่อเป็นหนึ่งในทางเลือกเรามี 10 สถานที่ที่เหมาะแก่การไปทำกิจกรรม ไปหาความรู้ช่วงปิดเทอม ความน่าสนใจคือหลายสถานที่ไม่จำเป็นต้องเป็นเด็ก ก็สามารถไปสนุกกับสถานที่เหล่านี้ได้เลย ไม่ใช่แค่ปิดเทอมเท่านั้น แต่เปิดเทอมแล้วก็ยังไปเที่ยวได้อยู่ โครงการป่าในกรุง ศูนย์การเรียนรู้แห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ที่ ปตท. เป็นผู้สร้างขึ้นมาโดยเนรมิตรพื้นที่กว่า 12 ไร่ ให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ที่ไม่เพียงแค่มีต้นไม้เท่านั้น แต่ยังมีพื้นที่เรียนรู้ต่างๆ กระจายอยู่ทั่วป่ากลางกรุง ไฮไลท์ของสถานที่แห่งนี้คือ Sky Walk บันไดลอยฟ้าที่ทำให้เราเดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติจากมุมสูง และยังมีหอชมวิวที่ให้เด็ก หรือผู้ปกครองมองความสวยงามของธรรมชาติ เป็นการปลูกสำนึกให้เรารักธรรมชาติไปในตัว ที่สำคัญไม่เสียค่าเข้าชม เวลาเปิด / ปิด: 09. 00 – 16. 00 น. ที่ตั้ง: โครงการป่าในกรุง (สุขาภิบาล 2) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่: pttreforestation Canopy Walkway สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ของเชียงใหม่ เปิดโอกาสให้เราได้เดินชมธรรมชาติบนความสูงกว่า 20 เมตรจากพื้นดิน บนทางเดินเหนือเรือนยอดไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศกว่า 400 เมตร ที่ตลอดสองข้างทาง เราจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับการชมธรรมชาติ ป่าไม้ ทิวเขาในมุมที่ยากจะสัมผัสได้ นอกจากนี้ยังได้ศึกษาเรื่องราวของธรรมชาติไปพร้อมกันกับการเดินชมธรรมชาติด้วย แม้จะมาเที่ยวในช่วงฤดูร้อน แต่บรรยากาศโดยรอบกลับดูเย็นสดชื่นด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ ค่าเข้าชมเพียง 40 บาท สำหรับผู้ใหญ่ และเด็ก 20 บาทเท่านั้น เวลาเปิด / ปิด: 08.
งดเล่นมือถือ เวลาที่พ่อแม่กลับมาบ้านควรหาเวลาพูดคุยอยู่กับลูกบ้าง อย่าห่วงแต่เล่นจนไม่สนใจกัน เพราะต้องให้คนในครอบครัวได้ใช้เวลาด้วยกันโดยไม่ต้องมีอุปกรณ์อิเลคทรอนิคมารบกวนค การวางแผนกิจกรรมล่วงหน้า จะช่วยทำให้เด็กๆ ใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่าและมีประโยชน์ค่ะ เป็นการ สอนเด็กๆ เรื่องการวางแผนในช่วงระยะเวลาที่ยาวมากขึ้น และฝึกฝนการควบคุมการใช้เวลาของตนเอง ที่มา:
นักอ่าน/นักเขียน สำหรับคุณพ่อคุณแม่ท่านใดที่กลัวลูกน้อยจะลืมวิธีเขียนและอ่านในช่วงปิดเทอมยาว ๆ แบบนี้ แนะนำให้หาหนังสือนิทานที่มีภาพประกอบน่ารัก ๆ สีสันสวยงามสักเล่มมาอ่านให้พวกเขาฟัง หรือจะสลับกันอ่านโดยให้ลูกน้อยเป็นตัวละครอีกตัวในเรื่องก็ถือเป็นความคิดที่ดีเลยทีเดียว มาถึงในเรื่องการเขียนซึ่งถือเป็นเรื่องยากที่จะทำให้พวกเขานั่งอยู่กับเราได้นาน ๆ ดังนั้นควรปรับวิธีการสอนเสียใหม่โดยเปลี่ยนการนั่งเขียนแสนน่าเบื่อ ให้เป็นเกมเขียนตามคำบอกแล้ววัดผลจากคะแนน รับรองว่าวิธีนี้จะช่วยให้เขาไม่เบื่อที่จะต้องนั่งเขียนหนังสืออีกต่อไป 5. จูเนียร์มาสเตอร์เชฟมือสมัครเล่น มีเด็ก ๆ หลายคนชอบตามคุณแม่เข้าครัว แล้วเฝ้าสังเกตและสนใจอยากจะลองทำอาหารแบบคุณแม่ดูสักครั้ง โดยเริ่มจากให้เขาเป็นลูกมือเตรียมของก่อนก็ได้ พอคล่องสักหน่อยก็ลองให้เขาทำเมนูง่าย ๆ ที่เขาชอบกินดูบ้าง โดยทุกขั้นตอนกระบวนการคุณแม่จำเป็นต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดด้วย จะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันขึ้น 6.
ปิดเทอมสนุกแน่ แค่ชวนสมาชิกในบ้านใช้เวลาร่วมกันทำกิจกรรมง่ายๆ ได้ประสบการณ์ แถมไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลือง เสียสตางค์มากมายเลย ไปดูกันดีกว่าว่า… ปิดเทอมนี้ทำอะไรดี? 1. สวมบทบาทเชฟรุ่นจิ๋ว หัดทำอาหารง่ายๆ อย่างเช่น พิซซ่า ยิ่งถ้ามีเพื่อนหลายคนมาเล่นสนุกสนานด้วยกันก็ยิ่งดีใหญ่ โดยจัดแข่งขันกันว่าใครจะทำได้เจ๋งที่สุด โดยให้คุณแม่เป็นผู้ตัดสิน การได้ลองทำอาหาร ปั้นแป้งพิซซ่าแบบนี้นอกจากจะทำให้ได้ปลดปล่อยพลังจนเหนื่อยสุดๆ แล้วยังใช้เงินไม่เยอะ ทั้งยังได้โบนัสเป็นอาหารมื้อเย็น ประหยัดแรงคุณแม่ไปอีกต่างหาก 2. พาลูกเที่ยวตลาด วันว่างปิดเทอมทั้งทีพากันออกไปสูดอากาศไกลบ้านสักหน่อย อาจจะเป็นต่างจังหวัดหรือนอกเมืองที่มีตลาดสวยๆ บรรยากาศดี น่าเดินเที่ยว ชมและชิม ทั้งสินค้าหัตถกรรม อาหารพื้นบ้านละลานตา และอื่นๆ อีกมากมาย เหมาะมากสำหรับวัยที่กำลังเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัว 3. เล่นกิจกรรมผจญภัยในสวน ทุกวันนี้มีสวนสาธารณะและอุทยาน สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ เกิดขึ้นหลายแห่ง ลองค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตว่ามีที่ไหนน่าสนใจ มีสนามเด็กเล่น พร้อมอุปกรณ์เครื่องเล่นน่าตื่นเต้นอยู่บ้าง แล้วออกไปเที่ยวผจญภัยทั้งครอบครัวกันเลย 4.
เพราะสถานการณ์โควิดแบบนี้ ทำให้เราคงต้องกักตัวอยู่บ้านกันไปอีกยาว ที่โรงเรียนของเจ้าตัวเล็กก็เลื่อนเปิดเทอมเพิ่มไปอีกหนึ่งเดือน ไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหนเลย กำลังเบื่อกันอยู่ใช่ไหม? โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็ก เจ้าตัวเล็กคงงอแงอยากออกไปข้างนอกอยู่แน่ ๆ มาหากิจกรรมสนุก ๆ ทำแก้เบื่อกันดีกว่า Cotton Baby ขอมาบอกต่อกิจกรรมครอบครัวที่พ่อแม่ลูกสามารถทำร่วมกันได้ในช่วงอยู่บ้าน ซึ่งทุกกิจกรรมเราคัดสรรมาอย่างดี รับรองว่าสนุก ไม่มีเบื่อ แถมยังได้ช่วยประเทศอยู่บ้านต้านโควิดอีกด้วย ไปดูกันเลยมีอะไรบ้าง 7 กิจกรรมครอบครัว แก้เบื่อช่วงลูกปิดเทอม 1. นั่งดู Netflix ด้วยกัน ชวนลูกมานั่งดู Netflix อยู่บ้านก็เป็นกิจกรรมครอบครัวที่พ่อแม่สารถสอนลูกไปด้วยได้นะ มีหลายเรื่องที่เด็กและผู้ใหญ่สามารถดูด้วยกันได้ ทั้งหนัง และการตูนมากมาย เช่น Toy Story, Madagascar, Sing, Finding Nemo หรือ Frozen พอลูกน้อยสงสัยเกิดคำถามขณะดู พ่อแม่จะได้ช่วยตอบคำถามได้ทันที พร้อมสอนข้อคิดที่ได้จากหนังให้ลูกไปด้วยเลย 2. เข้าครัวทำอาหาร เหมือนเป็นเรื่องที่แลดูจะเหนื่อย แต่การทำกิจกรรมนี้ด้วยกัน จะช่วยเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวได้ดีทีเดียว นอกจากนี้ยังช่วยฝึกทักษะเจ้าตัวเล็กในด้านทำครัวอีกด้วย แต่งานนี้คุณแม่อาจจะต้องเป็นคนนำทีมนะ เริ่มด้วยการขอไอเดียของคุณพ่อและคุณลูกว่าวันนี้อยากทานอะไรเป็นพิเศษ แล้วให้คุณแม่คิดเมนูอาหารที่จะทำ จากนั้นก็แจกจ่ายหน้าที่ให้ทุกคนไปทำ คุณพ่อที่นอกจากจะคอยช่วยคุณแม่แล้วก็ต้องคอยดู คอยสอนเจ้าตัวเล็กในหน้าที่ที่มอบไปให้ด้วย และอย่าลืมเรื่องความปลอดภัยด้วยล่ะ 3.
ใช่ ไม่ใช่ คัดลอกลิงก์เรียบร้อย
เรียนศิลปะ บางครั้งศิลปะ ก็ไม่ได้เกิดจากพรสวรรค์ซะทั้งหมด แต่มันเกิดจากการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น ใครที่อยากให้ลูกรักงานศิลปะ ลองลงคอสเรียนศิลปะสักประเภทดูสิ ไม่แน่ เขาอาจจะกลายเป็นจิตรกรระดับโลกก็เป็นได้ 5. ออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการ ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ ยิมนาสติก หรือกีฬาประเภทอื่นๆ ล้วนเป็นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและสุขภาพให้แข็งแรง และนอกเหนือจากนั้น ยังทำให้เด็กๆ ได้พบเพื่อนใหม่ที่ร่วมเล่นด้วยกันอีกนะ 6. เที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ การเที่ยวมีหลายรูปแบบ แต่การท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ธรามชาติจะช่วยปลูกฝังให้เด็กๆ รักธรรมชาติ และรู้จักวงจรชีวิตของสิ่งต่างๆ รอบตัว 7. ทำงานพิเศษ แทนที่จะใช้เวลาว่างในช่วงปิดเทอมเที่ยวเล่นไปวันๆ คุณลองฝึกให้เขามีวินัยในการทำงาน โดยมีค่าตอบแทนเป็นเงินหรือของเล่นที่เขาอยากได้ และถ้าโตพอที่จะดูแลตัวเองได้ ให้เขาไปสมัครเป็นพนักงานตามร้านอาหาร พาสฟู้ดต่างๆ ก็เป็นการฝึกให้เด็กๆ รู้จักคุณค่าของเงินได้ดีเชียวล่ะ 8. บำเพ็ญประโยชน์ สังคมไทยทุกวันนี้ เป็นสังคมที่ค่อนข้างเห็นแก่ตัวมากขึ้นกว่าแต่ก่อน การหากิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ให้กับเด็กๆ ได้ลงมือทำ ย่อมจะช่วยให้เขามีน้ำใจ และรู้จักช่วยเหลือผู้อื่นมากขึ้น 9.
ปิดเทอมให้ลูกทำอะไรดี??? ปิดเทอมให้ลูกทำอะไรดี ลูกๆ ปิดเทอมกันแล้ว เวลาว่างคงจะมีมากขึ้น แม่ๆ คงไม่อยากให้ลูกเล่นแต่มือถือ ดูโทรทัศน์ หรือเล่นเกมอย่างเดียวใช่ไหมค่ะ ต้องหากิจกรรมให้ลูกได้ทำบ้าง แต่จะทำกิจกรรมอะไรบ้างนั้นคงเป็นเรื่องที่ยากน่าดู พ่อแม่คนไหนที่นึกไม่ออกว่าต้องวางแผนให้ลูกอย่างไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ 1. ลิสต์กิจกรรมที่ลูกอยากทำ อันดับแรกของการวางแผนกิจกรรม พ่อแม่ต้องเริ่มจากการพูดคุยกับลูกๆ ก่อนนะคะ ถ้าให้พ่อแม่คิดเองจัดการเองทุกอย่างลูกๆ อาจไม่สนใจและไม่อยากทำไปเลยก็ได้ ลองถามลูกน้อยก่อนว่าพขาอยากจะทำอะไรในช่วงปิดเทอมบ้าง เช่น ไปทะเล ไปสวนสัตว์ ทำขนม หัดวาดภาพ ฯลฯ แน่นอนว่าคุณพ่อคุณแม่อย่าลืม จัดตารางของตัวเอง เพื่อที่จะได้หาเวลาพาลูกๆ ไปทำกิจกรรมที่พวกเขาอยากทำด้วยนะคะ 2. กำหนดกิจกรรมที่ต้องทำ นอกจากจะถามลูกถึง กิจกรรมพิเศษ ที่เด็กๆ อยากทำแล้ว พ่อแม่ควรที่เอากิจกรรมที่เด็กๆ ควรทำเป็นประจำทุกวันลงไปด้วย เช่น งานบ้าน การบ้าน เรียนเสริม หรือการทบทวนบทเรียน เพื่อให้เขาได้รู้จักหน้าที่ของตน และรู้จักแบ่งเบาภาระด้วย 3. ทำตารางกิจกรรม เมืื่อได้กิจกรรมทุกอย่างมาแล้วทีนี้ก็เริ่มเขียนเป็นตารางให้ลูกๆ ได้เลยค่ะ ซึ่งพ่อแม่ต้องทำพร้อมๆ กับลูก การทำตารางอาจจะเป็นหนึ่งกิจกรรมที่ให้ลูกน้อยได้ฝึกการคิดสร้างสรรค์ออกแบบตารางเป็นของตัวเอง น้องๆ จะได้รู้สึกภูมิใจ แต่กิจกรรมที่วางไว้ไม่ควรจะแน่นเกินไปนะคะ เด็กวัยซน ถ้าถึงเวลาเล่นก็ปล่อยให้เค้าได้สนุกสนานอย่างเต็มที่ 4.
29 มีนาคม 2562 ช่วงเด็กปิดเทอม คุณแม่อาจต้องเริ่มคิด เริ่มวางแผนกันแล้วว่าจะให้เด็กๆ ทำอะไรดี หรือมีกิจกรรมอะไรที่น่าสนใจ เพราะไม่งั้นเด็กๆ อาจจะอยู่กับหน้าจอมือถือ กิจกรรมที่สนุกและน่าสนใจนั้น นอกจากจะช่วยเบนความสนใจจากหน้าจอแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างพัฒนาการและต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็กๆ มาดูกันว่า 5 กิจกรรมดีๆ ที่นำมาฝากมีอะไรบ้างค่ะ 1. ปลูกต้นไม้ ต้นที่ปลูกง่ายเห็นผลไว เพื่อให้เด็กมีการติดตามผลของต้นไม้ได้ในทุกๆ วัน โดยเริ่มจากผักที่ปลูกง่ายก่อน เช่น ต้นอ่อนทานตะวัน ต้นหอม มะเขือเทศ ให้เด็กๆ ได้ลงมือทำตั้งแต่ การปลูก การรดน้ำ และติดตามการเติบโตของต้นไม้ ซึ่งในระหว่างการปลูก การดูแลนี้ คุณแม่ยังสามารถสอนให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ชื่อและลักษณะของผัก พร้อมทั้งบอกประโยชน์ของผัก แต่ละชนิดให้เด็กๆ ได้ทราบ การปลูกต้นไม้เพียง 1 ต้นนี้ จะทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ และมีความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย 2.