ข. ภาพที่ 1 สไปโรไจราที่พบตามธรรมชาติและบ่อเลี้ยง ก. สไปโรไจราที่พบในแหล่งน้ำธรรมชาติ ข. สไปโรไจราที่เก็บขึ้นมาจากบ่อเลี้ยง ลักษณะของสไปโรไจราหรือเทาน้ำ สไปโรไจราหรือเทาน้ำเป็นสาหร่ายน้ำจืดสีเขียวจับดูจะรู้สึกลื่นมือมักพบลอยเป็นแพหรือติดกับวัตถุ มีลักษณะเป็นเส้นสายไม่แตกแขนง มีสีเขียวสด มีเมือกปกคลุม ภายในเซลล์มีนิวเคลียสอยู่ตรงกลางดังภาพที่ 2 ก. สามารถสร้างอาหารได้เองโดยอาศัยกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงเนื่องจากมีคลอโรพลาสต์ที่มีรูปร่างเป็นเกลียว บนสายของ คลอโรพลาสต์มีไพรีนอยด์ (pyrenoid) ดังภาพที่ 2 ข. ทำหน้าที่สะสมอาหารเรียงเป็นแถวตลอดสาย และมีผนังกั้น (septum) ระหว่างเซลล์ของสาหร่ายเป็นแบบระนาบ หรือมีลักษณะเป็นปลอกรอบรอยต่อระหว่างเซลล์ ดังภาพที่ 2 ค. ก. ข. ค. ภาพที่ 2 ลักษณะของสไปโรไจรา ก. องค์ประกอบของเซลล์เทาน้ำที่สามารถมองเห็นได้ภายใต้กล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง ข. ภาพขยายไพรีนอยด์บนสายคลอโรพลาสต์ที่บิดเป็นเกลียว ค. ผนังกั้นระหว่างเซลล์สไปโรไจราที่มีลักษณะเป็นปลอกรอบรอยต่อระหว่างเซลล์ (ภายในวงกลมสีแดง) ที่มาภาพ: การสืบพันธุ์ของสไปโรไจรา สไปโรไจราสามารถเพิ่มจำนวนได้ทั้งการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศโดยการหักเป็นท่อน (fragmentation) และการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศที่เรียกว่า คอนจูเกชัน (conjugation) หมายถึง การรวมตัวของเซลล์สืบพันธุ์ที่มีขนาดและรูปร่างเหมือนกัน ซึ่งมี 2 แบบ คือ สคาลาริฟอรมคอนจูเกชัน (scalariform conjugation) เป็นการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศโดยสร้างท่อคอนจูเกชันเชื่อมระหว่างเซลล์ต่างเส้นสายดังภาพที่ 3ก.
๑๖๙๙ หรือเมื่อ ๘๖๔ ปีมาแล้ว(ร่วมสมัยพระเจ้าสุริยะวรมันที่ ๒ ผู้สร้างมหาปราสาทนครวัด หรือ "บรมวิษณุโลก แห่งกัมพูชา เอกสารอ้างอิง 1. ประพาสราชสถาน พระราชนิพนธ์ ใน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2. Website Wikipedia, the free encyclopedia เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ: ปานถ่อง – ปานซอย มนต์เสน่ห์ของไทใหญ่